แนะนำเกมส์ทีเอสออนไลน์พร้อมเทคนิคการเก็บเลเวล และการปลูกพืชแบบไร้ดิน
วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
FinalDetail
การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์
รายละเอียดในส่วนนี้จะกล่าวถึงการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ปุ่มควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการเริ่มต้นการทำงานเมื่อเปิดสวิตซ์คอมพิวเตอร์
เริ่มต้นการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์
จากความรู้ที่ผ่านมาเราได้ทราบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมหรือชุดคำสั่ง และโปรแกรมตัวหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญในกรที่จะควบคุมให้คอมพิวเตอร์ทำงานำได้อีกคือ โปรแกรมระบบ
ซึ่งจะประกอบไปด้วย 2
ส่วนที่สำคัญดังนี้
1. ระบบปฏิบัติการรับ -
ส่งข้อมูลพืนฐาน (BIOS :
Basic Input / Output System) โดยทั่วไป BIOS
หรือไบออส
จะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบ
เช่น การรับ - ส่งสัญญาณควบคุมต่าง
ๆ รวมไปถึงการรับส่งข้อมูล
ตรวจสอบและแสดงสถานะการทำงานของอุปกรณ์รอบข้างให้มีการทำงานที่สอดคล้องกัน
ซึ่งลักษณะการทำงานดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเราเริ่มต้นเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์
2. ระบบปฏิบัติการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูลและดิสก์
มีหน้าที่หลักในการจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล ซึ่งจัดเก็บอยู่บนดิสก์ต่างๆ เช่น
การควบคุมการรับ-ส่งแฟ้มข้อมูลระหว่างตัวเครื่องกับส่วนควบคุม
การอ่านเขียนแผ่นดิสก์ (Disk-Drive) เช่น
การขอดูรายชื่อแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บแฟ้มข้อมูล การลบ และการเปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูล
เริ่มต้นการทำงานด้วยวิธีต่างๆ
การเริ่มต้นการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ คือ
การติดต่อระหว่างผู้ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีระบบปฏิบัติการเป็นตัวกลาง
แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
1. Cool Boot หมายถึง
กระบวนการทำงานโดยเริ่มจากาารเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เริ่มทำงาน
2. Warm Boot หมายถึง
กระบวนการทำงานที่จะเกิดขึ้นขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์เปิดงานใช้อญุ่แล้ว
แต่อาจจะเกิดปัญหาขึ้น เช่น โปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่หยุดทำงานโดยกระทันหัน
เป็นต้น สามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ
2.1 การกดปุ่ม Reset
ที่หน้าตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
ซึ่งจะเป็นผลทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หยุดการทำงานทุกอย่าง
แล้วเริ่มต้นทำงานใหม่ตั้งแต่ต้น
2.2 การกดแป้นพิมพ์ Ctrl
+ Alt + Del พร้อมกันแล้วปล่อย ในระบบปฏิบัติการ Windows การกระทำดังกล่าว เครื่องพิวเตอร์จะแสดงหน้าต่างให้เลือกการทำงาน เช่น
จบโปรแกรม (End Task) ปิดเครื่อง (Shut Down) หรือยกเลิก (Cancel) ซึ่งจะแตกต่างจากระบบปฏิบัติการดอส
ซึ่งจะรีเซตเครื่องทันทีทำให้ผู้ใช้ไม่มีโอกาสเลือกการทำงานดังกล่าวได้
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
Games TS Online
ทีเอสออนไลน์ (TS Online) เป็นเกมออนไลน์ประเภท MMORPG เป็นเกมส์ออนไลน์แนวเทิร์นเบสเกมส์แรก
จากบริษัท ไชนีสเกมเมอร์ อ้างอิงจากนวนิยายจีนสุดฮิต "สามก๊ก"
โดยผู้เล่นจะเกิดในยุดปัจจุบัน แต่จะโดนส่งไปผจญภัยในยุคสามก๊ก
ซึ่งจะได้ร่วมผจญภัยและได้เจอผู้ที่มีชื่อเสียงมากมายในยุคนั้น เช่น เล่าปี่
ขงเบ้ง โจโฉ เป็นต้น
รูปแบบการแพ้ชนะของธาตุในเกม
ในเกมนี้มีตัวละครที่ใช้ธาตุในการต่อสู้ และแต่ละธาตุจะมีการข่มกัน
แต่ไม่ใช่ว่าการข่มนี้จะมีผล100% แต่จะมีปัจจัยอื่นๆหลายๆสิ่งมาช่วยกันเสริม
เพราะฉะนั้นการข่มกันของธาตุจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแพ้ชนะเท่านั้น
1.ธาตุดิน
ชนะธาตุ น้ำ แพ้ธาตุ ลม
2.ธาตุน้ำ
ชนะธาตุ ไฟ แพ้ธาตุ ดิน
3.ธาตุลม
ชนะธาตุ ดิน แพ้ธาตุ ไฟ
4.ธาตุไฟ ชนะธาตุ ลม แพ้ธาตุ น้ำ
เก็บเลเวล 4 ตัว
การเก็บเลเวลแบบ 4 ตัวคือใช้สกิล หินกลิ้ง + ธนูไฟ/รถยิงหิน
การใช้หินกลิ้งแนะนำให้เป็นคนใช้จะสามารถอัพ int ได้เยอะและกลิ้งได้แรงพอที่ตัวที่อยู่ด้านหน้าตาย
แต่หากในปาร์ตี้เรามีธาตุไฟ (ไม่สามารถอัพสกิลของธาตุดิน)
เยอะก็ต้องไปอาศัยขุนพลที่มีหินกลิ้ง ขุนพลที่แนะนำมีดังต่อไปนี้
1. ซินผิง
1. ซินผิง
2. จั่วหลิง
3. เสิ่นเพ่ย
**********************************************************************************************************************
เริ่มต้นเก็บเลเวลกันเลย
ป่าด่านหูกวน (หลังด่านจี้โจวไปปิ้งโจว) ดิน 34
sp+hp 1:1
ป่าเหอตง
ดิน 51 spเยอะ
ป่าเกาตู
ดิน 62 sp เยอะ
ป่าเกาตู
น้ำ 68 hp ล้วน
เขตเจียวโจว_______________________________________________________
ป่าฝนจงซู่
ไฟลม 70-71 sp เยอะ
บึงเกาเหลียง
น้ำดิน 71-72 sp+hp
ป่าไหวอัน
ดินลม 73-74 sp เยอะ
ป่ากว่างซิ่น
ไฟน้ำ 75-76 sp เยอะ
เขตแดนตะวันตก_____________________________________________________
ทะเลทรายชั่นชั่น
ลม 85 sp+hp
ทะเลทรายชั่นชั่น
น้ำ 86 sp+hp
ช่องเขาหลิ่วจง
ดิน 91 spเยอะ
ทะเลทรายอีอู้หลู
ดิน 101 spเยอะ
ทะเลทรายชาเชอ
ลมไฟ 125-126 spเยอะ
ทะเลทรายซูเล่อ
ลมน้ำ 130-131 spเยอะ
เขตจิงหนัน_____________________________________________________
ป่าไหลหยาง
เสี่ยวเว่ย ลม 143 sp เยอะ
เขตหนานจง_____________________________________________________
ป่าฝนผานเจียง
น้ำน้ำ 136-138 spเยอะ
สนามรบหุบเจี๋ยซาน ไฟน้ำ 158-160 sp+hp
*มี2จุด ชั้น1และชั้น3*
เขตเหลียงโจว _____________________________________________________
ทะเลทรายอวี้เหมิน
น้ำ 174 spเยอะ
เขตอี้โจว _____________________________________________________
ยอดเขาเทียนค้าง
น้ำ 171
ยอดเขาเทียนค้าง น้ำลม 171-172 sp เยอะ
ป่าท่าจง
ลม 180 spเยอะ
ปิดท้ายด้วย วิดีโอตะลุย40ด่านของเกมส์กัน
*******************************************Thank You***************************************
วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558
การปลูกพืชไฮโดรโปรนิกส์
การปลูกพืชแบบไร้ดิน
การปลูกพืชไม่ใช้ดินอาจแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ การปลูกพืชโดยให้ส่วนของรากแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหาร
ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยตรง
หรือปลูกบนวัสดุอื่นที่ไม่ใช่ดินและรดด้วยสารละลายธาตุอาหารหรือน้ำปุ๋ย วัสดุที่ใช้ปลูกพืชอาจจะเป็นสารอนินทรีย์
เช่น กรวด ทราย หิน ที่ได้จากธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทำขึ้นมา เช่น เพอร์ไลท์ (Perlite)
เวอร์มิคิวไลท์ (Vermiculite) ร็อกวูล (Rockwool)
หรือสารอินทรีย์ เช่น พีท (Peat) มอส (Moss)
ขี้เลื่อย เปลือกไม้ เปลือกมะพร้าวสับ ขุยมะพร้าว แกลบสดและถ่านแกลบ
เป็นต้น
ข้อดีและข้อเสียของการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน
เนื่องจากการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์มีการจัดปัจจัยต่าง
ๆ เช่น น้ำ แร่ธาตุ แสงอุณหภูมิให้แก่พืชอย่างเหมาะสม
พืชจึงเจริญเติบโตเร็ว และให้ผลผลิตมากสม่ำเสมอ สะอาด
มีคุณภาพดี ปลูกได้ต่อเนื่องตลอดปี สามารถปลูกพืชได้ในพื้นที่ไม่มีดิน หรือมีดินไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืช การใช้น้ำใช้ปุ๋ยเป็นไปอย่างมีประ-สิทธิภาพ ใช้แรงงานน้อย การควบคุมโรค
แมลงศัตรูพืชทำให้ง่ายกว่า
ข้อเสียมักจะเป็นเรื่องการลงทุนในระยะแรก
มีการลงทุนสูง แต่ในระยะยาวนับว่าน่าลงทุนเพราะความต้องการในตลาดปัจจุบันมีแนวโน้มการบริโภคที่มีความปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้นทุกวัน เราจะสังเกตุเห็นได้ว่า ราคาผักทั่วไปในตลาดสดและราคาผักที่ปลูกแบบไม่ใช้ดินมีราคาที่แตกต่างกันมาก
ตัวอย่างการปลูกพืชไม่ใช้ดินจากโรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม
การปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน(Hydroponics)ของนักเรียนโรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม จึงได้ถือโอกาสเก็บภาพมาฝาก ก็ขอขอบคุณคณะอาจารย์และนักเรียนโรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคมไว้
ณ ที่นี้ด้วย นักเรียนได้ทำการปลูกคะน้าโดยปลูกในสารละลายที่มีสารอาหารผสมอยู่ แบบของกระบะที่ใช้ปลูกมีรายละเอียดดังรูป
ภาพแสดงผังระบบการปลูกโดยใช้สารละลาย
จากผังด้านบนเป็นการนำเหล็กสี่เหลี่ยมมาทำเป็นกระบะยาว 2.4 เมตร กว้าง1.2 เมตร มีขาตั้งให้กระบะสูงจากพื้นประมาณ
80 เซนติเมตร และใช้พลาสติกมาปู เดินท่อสร้างระบบน้ำ
ตัวกระบะด้านบนมีปริมาตรน้ำประมาณ 200 ลิตร ส่วนถังสีฟ้าที่วางอยู่ใต้โต๊ะมีปริมาตร
200 ลิตรเช่นเดียวกัน เท่ากับในระบบมีน้ำทั้งมด 400ลิตร ทั้งนี้เราจำเป็นต้องทราบขนาดความจุของน้ำทั้งระบบเพื่อใช้ในการคำนวณการใส่สารอาหารในภายหลัง
ภาพแสดงรายละเอียดส่วนต่างๆของกระบะ
ส่วนประกอบในถังขนาด 200 ลิตรมีท่อแยกเพื่ออัดอ๊อกซิเจนลงไปในน้ำ
รายละเอียดการทำข้อต่อสามทาง
ทางน้ำเข้าในกระบะ
ทางน้ำเข้าเดินมาจากถังด้านล่าง
กำลังเจาะรูเพื่อติดตั้งท่อทางออก
เมื่อปูพลาสติกและติดตั้งท่อเรียบร้อยแล้ว
ประกอบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกำลังเติมน้ำ
เมื่อระบบเรียบร้อยก็เดินเครื่องได้เลย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)